วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2561

นิเทศนิสิตฝึกสอน_๐๔: โรงเรียนกมลาไสย ครั้งที่ ๒

วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑ มีความสุขดีที่ได้ทำหน้าที่อาจารย์นิเทศการสอน ครั้งที่ ๒ ของนิสิตสาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไป ณ โรงเรียนกมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ... AAR ว่า นิสิตทั้งสอง แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยาก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความตั้งใจมากๆ ในการการสอนของตนเอง

บันทึกนี้ อยากจะสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้ และมุมมองป้อนกลับสำหรับให้นิสิตทั้งสองได้พัฒนาภาวะแห่งความเป็นครู หรือ จิตวิญญาณแห่งความเป็น "ครูเพื่อศิษย์" ต่อไป

คนที่ ๑

สถานการณ์ยากไปกว่าครั้งแรกที่มาเยี่ยม เนื่องจากอาคารเดิมหลังคาชำรุดแบบสุดวิสัย จึงจำเป็นต้องย้ายชั้นเรียนมาใต้อาคารเรียนหลังใหม่ และเรียนแบบใกล้ๆ กัน ๔ ชั้นเรียน ใช้ไมค์ใช้เสียงก็ไม่เหมาะ  ... หากดูด้วยตา อาจเห็นว่าบรรยากาศเย็นสบายดี โล่งดี  แต่ใครที่มาเจอแบบนี้ จะพบข้อดีว่าทำไมห้องเรียนถึงต้องมีผนัง






  • สิ่งที่เห็นเป็นจุดเด่น 
    • ยังคงเป็นความพยายามและการเตรียมตัวอย่างดีเช่นเดิม 
    • สื่อการสอนที่ทำอย่างประณีต .... วินัยและนิสัยนี้ คือสิ่งที่ส่งผลให้ นิสิตคนนี้ เข้าใจและแม่นยำในเนื้อหาที่ตนเองสอน ... ความจริง หากทำให้นักเรียนทำเหมือนตนเองเตรียมสอนได้ เด็กก็จะเข้าใจเป้าหมายของการเรียนรู้ (Learning Outcome) ได้แน่  
    • เห็นความพยายามที่จะนำเอา "คะแนน" มาเป็นกลไกในการควบคุมชั้นเรียน ... แต่ไม่ได้สร้างเงื่อนไขชัดเจนนัก เลยอาจทำให้ "พลัง" น้อยไป 



    • การทดลองทำให้นักเรียนสนใจได้ สนุกสนานได้เสมอ 

  • แนะนำต่อจากสิ่งที่เคยแนะนำไว้ในบันทึกแรก (อ่านที่นี่)
    • เรื่องการสร้างเงื่อนไข และรักษาเงื่อนไข กติตา ให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ 
    • เรื่องการออกแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลุ่ม ... คอมเมนต์สำหรับการทดลองนี้ คือ ออกแบบงานแต่ละกลุ่มน้อยเกินไป ทำให้กิจกรรมทำแบบเดียวก็เสร็จ คุณครูต้องทำทุกวิธีเพื่อให้มั่นใจว่า จะมีวัสดุอุปรณ์ต่างๆ  จัดเตรียมเอง จัดหาเอง หรือหากจะมอบหมายให้นักเรียนนำมา ก็ต้องจัดการให้มั่นใจว่า นักเรียนจะนำมาจริงๆ และควรมีแผนสำรอง  
    • อาจออกแบบเพิ่มเติมให้จับเวลา และความสูงที่ลำเลียงขึ้นไปได้ เพื่อให้ฝึกคำนวณอัตราการลำเลียงของพืช  เป็นต้น 
    • อย่าลืมว่า "เรากำลังฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ วิธีการคิดและทำตามวิธีทางวิทยาศาสตร์ " ดังนั้น ต้องค่อยๆ พานักเรียนดำเนินการ ๔ ขั้นตอนเสมอ คือ พากำหนดปัญหา  พาตั้งสมมติฐาน ทดลอง/พิสูจน์/รวบรวมข้อมูล และสรุปผลการศึกษาทดลอง 
  • แนะนำสำหรับ การสอนห้องโล่งๆ  แบบนี้ 
    • ใช้การสอนแบบเน้นกิจกรรม (Activity-based Learning) เช่น  
      • อาจง่ายๆ ตรงเป้าหมายคือ ให้วาดรูปท่อลำเลี้ยงเหมือนที่ครูเตรียมสอน  กำชับและกำกับให้วาดให้ละเอียด ประณีต ระบายสีสวยๆ ทำเป็นชั่วโมงศิลปะไปเลย  
      • อาจเป็นกิจกรรมสำรวจและทดลองแบบลองผิดลองถูกด้วยตนเองได้  โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มไปเด็ดลำต้นพืช (วัชพืชร) ต่างๆ ที่เห็นเยอะทั่วไปข้างห้องเรียน มาลองทำ แล้วใช้ใบงานนำให้สังเกตดูว่า เหมือนหรือต่างกันหรือไม่อย่างไร 
      • อาจสอนโดยใช้ใบงานที่มีกิจกรรมที่มีขั้นตอนชัดเจน ท้าทาย และมีจำนวนข้อมากพอสำหรับการดำเนินการสัก ๑๕-๒๐ นาที 
      • ฯลฯ....  จงเป็นนักออกแบบกิจกรรม
    • สอนแบบไม่ใช้เสียง สื่อสารด้วยเสียงให้น้อยที่สุด เช่น สอนโดยมอบหมายงานเดี่ยว แล้วให้ทำแบบประเมินแบบเปิด ให้สืบค้นด้วยตนเองได้  เมื่อเสร็จให้เอามาส่งครูรายบุคคลทันที แล้วตรวจประเมินป้อนกลับรายบุคคลทันที และหากทำเสร็จก็ให้ทำกิจกรรมอื่นได้ตามอัธยาศัย 
    • สำคัญคือ ต้องกำหนด KPA ให้ชัดเจนมากๆ  กำหนดเลยว่า ต้องการให้นักเรียนรู้อะไร (K) ทำอะไรได้ (P) ตระหนักถึงอะไร (A) แล้วออกแบบให้ง่ายและตรงที่สุด พร้อมออกแบบกิจกรรมให้ได้ประเมิน KPA ของตนเองโดยไม่รู้ตัว 
คนที่ ๒





  • สิ่งที่เห็นว่าเป็นจุดเด่น 
    • ยังคงเป็นบุคลิกที่ สุขุม นอบน้อม นิ่มนวล ต่อทั้งผู้เรียนและผู้คนที่ได้คุยด้วย เป็นบุคลิกที่แสดงออกให้เห็นความเกรงใจ จึงไม่แปลกที่จะเห็นนักเรียนในชั้นเรียน ตั้งใจและให้ความร่วมมือต่อกิจกรรมที่ครูฝึกสอนบอกโดยไม่ต้องให้ตะโกนใดๆ
    • อีกอย่างหนึ่งที่ชอบคือ "การทิ้งเวลา" หรือ "รอเวลา" ให้นักเรียนได้ลองคิดหรือทำด้วยตนเองก่อน เช่น ตอนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เขียนสรุปผลของตนก่อน โดยไม่รีบเฉลย 
  • แนะนำต่อจากสิ่งที่เคยแนะนำไว้ในบันทึกแรก (อ่านที่นี่)
    • ระลึกเสมอว่า "เรากำลังสอน กำลังฝึกทักษะกระบวนการและวิธีการทางวิธีการทางวิทยาศาสตร์" ให้นักเรียน ดังนั้น การพาทำหรือให้ทำด้วยตนเองใน ๔ ขั้นตอนนนี้ ต้องทำทุกครั้งเมื่อจะมีการทดลอง คือ  กำหนดปัญหา กำหนดสมมติฐาน พิสูจน์/ทดลอง และสรุปผล 
    • กิจกรรมที่ออกแบบให้ทำ ยังไม่เหมาะสม  ง่ายเกินไป ใช้เวลาน้อยเกินไป เวลาที่เหมาะสม น่าจะอย่างน้อย ๒๐ นาที โดยมีปัญหาหรือความท้าทายให้ค้นหาคำตอบโดยการพิสูจน์  
    • กิจกรรมการทดลอง ต้องออกแบบให้นักเรียนได้ บันทึกข้อมูลเป็นตัวเลขเสมอ (ระดับมัธยม) ได้มีการวัด การคำนวณ การตีความหมายข้อมูล การลงความเห็นจากข้อมูล และการนำเสนอ  
    • ความทั่วถึงต่อกิจกรรมที่ทำเป็นเรื่องสำคัญ  การพิจารณานักเรียนรายบุคคล ประเมนรายบุคคล จะเป็นไปไม่ได้ และกลายเป็นเรื่องไม่จริงทันที หากบทบาทการทำงานในกลุ่มไม่ชัด ซึ่งจะเกิดขึ้นแน่ๆ ในกรณีที่กลุ่มใหญ่เกินไป 
  • อย่างลืมเรื่องการ สะท้อนการเรียนรู้ (Reflection) โดยเฉพาะการเรียนรู้ของตนเอง (Self-Reflection) ต้องเหลือเวลาให้มีกิจกรรมนี้เสมอ 
ช่วงท้ายของการนิเทศ เรานั่งคุยกันถึงเรื่องวิจัยในชั้นเรียน ผมแนะนำว่า สิ่งสำคัญคือ การฝึกนิสิตและการใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้กับนักเรียน เรากำลังสร้างวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ เราไม่ได้เพียงสอนวิทยาศาสตร์  ดังนั้นสิ่งที่เราต้องเข้าใจ คือ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ๑๓ ข้อที่ยอมรับกันทั่วโลก  วิธีหนึ่งในการทำความเข้าใจคือ นำมาวาดรูปและสร้างระบบจดจำอย่างเป็นระบบเสียก่อน เช่น ภาพด้านล่างนี้ 




เข้าใจได้ด้วยการพิเคราะห์ภาพ ไม่ยากเลย ใช่ไหมครับ เป้าหมายคือการเข้าใจธรรมชาติ เข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ ใกล้ความจริงเข้าไปเรื่อยๆ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น