วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

รายวิชาศึกษาทั่วไป : ๐๐๓๒๐๐๕ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๒-๒๕๖๐ (๓) ถอดบทเรียน ๒๓๔ กับสิ่งที่ทำให้เกิด "วิกฤตต้มยำกุ้ง"

จุดมุ่งหมายของรายวิชา ๐๐๓๒๐๐๕ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประการแรก คือ ทำให้ผู้เรียนเข้าใจในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างถูกต้องพร้อมๆ กับการน้อมนำเอาใช้กับการดำเนินชีวิตของตน ๆ  กิจกรรม "ถอดบทเรียนกับหลัก ๒ เงื่อนไข ๓ ห่วง ๔ มิติ" ที่กำหนดเป็นใบงานต่าง ๆ ในเอกสารประกอบการสอนจะทำให้เข้าใจหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างถูกต้องในเบื้องต้น ส่วนกิจกรรมการทำบัญชีรับ-จ่ายรายวัน และกิจกรรมทำโครงงาน "ธุรกิจพอเพียง" ที่กำหนดไว้ในกิจกรรมบังคับนั้น นิสิตจะได้ฝึก(ทดลอง) น้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้

บันทึกนี้ ผู้เขียนลองถอดบทเรียน เหตุการณ์ "วิกฤตต้มยำกุ้ง" เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว โดยใช้หลักคิดของเศรษฐกิจพอเพียง ... ท่านผู้อ่านจะเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร หากเขียนบันทึกแลกเปลี่ยนกันไว้น่าจะดี

๑) พิจาณา ๒ เงื่อนไข

  • เงื่อนไขคุณธรรม  
    • ไม่มีใครตั้งใจผิดเงื่อนไขคุณธรรมโดยจงใจให้ประเทศไทยเกิดวิกฤต...เว้นแต่จะมีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการลอยตัวค่าเงินบาทแล้วไปแอบซื้อประกันความเสี่ยงไว้ หรือกักตุนเงินดอลลาร์ไว้แลกไทยบาททีหลัง 
    • อาจจะมีบ้างก็คือ ความโลภครอบงำทำให้มืดบอด ไปกู้เงินดอกเบี้ยงถูกจากต่างประเทศ มาปล่อยกู้ดอกเบี้ยแพง และอีกอย่างคือการเก็งกำไร ซื้อมาถูกไว้ขายแพง  โดยไม่ลังเลใจว่าใครจะเดือดร้อนตามมา ... แต่ที่สุดคงไม่มีใครจงใจอยากให้เกิดวิกฤต 
  • เงื่อนไขความรู้ 
    • ธนาคารแห่งประเทศไทยในขณะนั้น มีความรู้ไม่เพียงพอที่จะจัดการป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤต ไม่รู้ว่าควรจะปรับเปลี่ยนระบบแลกเปลี่ยนเงินของไทยให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ 
    • นักธุรกิจและผู้ประกอบการของไทย ไม่มีความรู้และวิทยาการสำหรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ทำให้ต้องพึ่งทั้งทุน ความรู้ และเทคโนลยีในอุตสาหกรรมการผลิต เป็นเหตุให้ต้องลงทุนสูง เป็นหนี้มาก 
    • วิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้เราคนไทย ให้ความสำคัญกับการศึกษาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง 
๒) มองในมุม ๓ ห่วง
  • ห่วงเหตุผล
    • การกู้เงินตราต่างประเทศแบบระยะสั้น (ต้องใช้คืนใน ๕ ปี) มาปล่อยกู้ในไทยให้ผ่อนระยะยาวในภาคอสังหาริมทรัพย์ (๑๐- ๒๐ ปี) ถือว่าผิดวินัยการเงิน ไม่สมเหตุสมผล ไม่เป็นไปตามหลักตรรกะ 
    • การเปิดเสรีทางการเงิน ให้ใบอนุญาตเปิดบริการวิเทศธนกิจ (BIBF) ให้สถาบันการเงินไทยไปกู้เงินดอกเบี้ยงถูกได้ ทั้งที่รู้ว่าดอกเบี้ยเงินกู้ภายในประเทศแพงกว่า ๕ - ๑๒ % ... ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีเหตุผลอันควร 
  • ห่วงพอประมาณ
    • ไม่พอประมาณในการลงทุน จนเกิดหนี้สินท่วมท้นเกือบแสนล้านดอลลาร์ ลงทุนเกินตัว จำนวนเงินลงทุนสูงกว่าความสามารถในการใช้หนี้ถึง ๘ เท่า
    • เก็งกำไรกันแบบไม่พอประมาณ ซื้อมาเพื่อขายไปในราคาที่แพงกว่า จนเกิดเศรษฐกิจฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัยพ์ 
  • ห่วงภูมิคุ้มกัน
    • เราขาดภูมิคุ้มกันด้านความรู้ ไม่รู้ว่าตนเองกำลังตกอยู่สถานการณ์รุนแรงเพียงใด หลงอยู่ในความโลภ เพลินอยู่กับเงินที่หาง่าย (กู้ได้ง่าย) เมื่อเกิดปัญหาแล้วก็ไม่มีองค์ความรู้ที่จะจัดการกับปัญหา ไม่ได้เรียนรู้ (ถอดบทเรียน) จากประสบการณ์ของอาเจนติน่าและแมกซิโกที่ประสบปัญหาคล้าย ๆ กันมาก่อน 
    • ไม่ได้วางแผนหรือเตรียมการรองรับการเปลี่ยนแปลง ก่อนจะเปิด BIBF ให้เงินไหลเข้าสู่ประเทศ  
๓) มอง ๔ มิติ
  • มิติวัตถุ/เศษฐกิจ 
    • หนี้สินจากต่างประเทศ 
    • ไปซื้อโรงงานเก่าต่างประเทศ หรือ นำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ 
    • ใช้จ่ายเกินตัว ซื้อของฟุ่มเฟือย ไปเที่ยวเมืองนอก ซื้อของแบรนด์เนมอย่างอู้ฟู่
  • มิติสังคม
    • การลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้บริษัทและธุรกิจล้ม ต้องปลดคนงาน ขายรายได้ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน กระทบต่อครอบครัว  คนชักดาบหนีหนี้ส่งผลต่อมิตรไมตรีอันดีที่เคยมีมาของผู้คน 
    • ในทางกลับกัน เมื่อประเทศประสบปัญหา คนไทยหันมาสามัคคีกัน ร่วมแรงร่วมใจกันประหยัดและบริจาคทาน โดยเฉพาะโดยการนำของหลวงตามหาบัว ที่สามารถรวบรวมทองคำและเงินดอลลาร์จากประชาชน ได้ถึง ๑๓ ตัน เงินกว่า ๑๐ ล้านดอลลาร์ (อ่านได้ที่นี่)  เงินจำนวนนี้มีส่วนสำคัญทำให้ "เงินไทยไม่กลายเป็นกระดาษ" ได้นำเข้ารวมไว้ในกองทุนสำรองระหว่างประเทศในส่วนที่ประกันการพิมพ์เงิน ทำให้สามารถพิมพ์เงินออกมาใช้ในตลาดกว่า ๒ หมื่นล้านบาท 
  • มิติสิ่งแวดล้อม 
    • มองในอีกมุมหนึ่ง อาจจะเป็นการดีที่ประเทศไทยก้าวไปสู่ความเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ หรือเป็น "นิค" (NIC: New Industry Country) ไม่สำเร็จ เพราะหากเป็นนิค สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรคงต้องถูกทำลายไปอีกมาก ...
    • เมื่อคนไทยหันมาศึกษาหลักปร้ชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทรงสอนให้เราตระหนักรู้ตนเอง และให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติ สู่ความสมดุลยั่งยืน ทำให้เกิดกระแสการอนุรักษ์ขึ้นในเมืองไทย 
  • มิติวัฒนธรรม 
    • เมื่อหันมาศึกษาให้รู้จักตนเอง เพื่อจะพึ่งตนเอง และเดินตามหลักทางสายกลาง คนไทยจึงพบว่า นอกจากทรัพยากรธรรมชาติแล้ว เรามีรากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามและมีคุณค่ายิ่ง นำมาสู่สิ่งที่เราถนัด คือ ธุรกิจบริการ การท่องเที่ยว โดยเฉพาะวัฒนธรรมการกินอยู่ อาหารไทย และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
    • วิกฤตต้มยำกุ้ง เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากความไม่พอเพียงที่เรามองข้ามวัฒนธรรมของตนเอง 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น