การสอนด้วยการเปิดสื่อให้ดู โดยเฉพาะสื่อวีดีทัศน์จาก youtube.com เป็นที่นิยมมาก เพราะนอกจากจะเป็นที่สนใจและได้ข้อมูลที่ทันสมัยแล้ว ยังทำได้ง่าย สะดวก เพราะห้องเรียนรวมทุกห้อง สามารถล็อคอินออนไนล์ใช้อินเตอร์เน็ตได้
ตอนที่เราไปแลกเปลี่ยนกันที่ จ.สกลนคร เพื่อนอาจารย์ท่านหนึ่งแลกเปลี่ยนเทคนิคง่ายๆ ในการเตรียมสอนของท่านคือ การสืบค้นเลือกดูคลิปบน youtube แล้วจดจำไว้เฉพาะคำสำคัญที่ใช้ในการค้นหาผ่าน google เมื่อถึงวันสอนให้ไปก่อนเวลาสักเล็กน้อย เพื่อไปสืบค้นบน youtube ที่คอมพิวเตอร์หน้าห้องเรียนได้เลย ...
กระบวนการของอาจารย์ศศินี มีขั้นตอนดังแผนภาพด้านล่าง (ถอดความจากการสังเกต) เครื่องมือที่สำคัญก็คือ "การตั้งคำถาม" -> แลกเปลี่ยน -> ยกตัวอย่าง -> สรุปสาระสำคัญและสะท้อนการเรียนรู้ร่วมกัน
คลิปแรกที่นำมาเป็นตัวอย่างคือ บ้านอนุรักษ์กระดาษสา ของแม่ฟองคำ หล้าปินตา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
คลิปที่ใช้สั้นแค่เพียง ๓ นาทีเศษ อาจารย์ผู้สอนที่ต้องการอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ศึกษาได้จากเอกสาร "ฟองคำ หล้าปินตา" (ดาวน์โหลดได้ที่นี่)
ตัวอย่างคำถามที่ อ.ศศินี ใช้เป็นเครื่องมือในการถอดบทเรียนบนหลักปรัชญาฯ
- เห็นอะไรจากวีดีทัศน์บ้างคะ?
- มีความพอประมาณตรงไหนบ้างคะ?
- มีเหตุผลอยู่ตรงไหนบ้างคะ?
- มีภูมิคุ้มกันที่ดียังไงคะ?
- เบื้องหลังของสิ่งนี้คืออะไร?
- ฯลฯ
ผมเปิดคลิปแล้วจับประเด็นไวๆ ได้ดังนี้ครับ
- เป็นอาชีพที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน ป้าฟองคำทำมาต่อเนื่องกว่า ๔๐ ปี
- นอกจากถ่ายทอดความรู้ด้านการทำกระดาษเท่านั้น แต่จะส่งต่อคติการทำงาน ความคิด ความเชื่อในการดำเนินชีวิต
- ไม่ได้เรียนทฤษฎีธุรกิจอะไร เกิดจากประสบการณ์อันยาวนาน
- ทำธุรกิจกับต่างประเทศต้องรักษามาตรฐาน เวลาต้องตรง รับได้เท่าไหร่ก็ต้องทำเท่านั้น
- เริ่มต้นด้วยภูมิปัญญาที่ได้รับการถ่ายทอดจากพ่อแม่
- ด้วยหลักความพอประมาณ ทำให้ธุรกิจค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง ไม่คาดหวังผลกำไรที่เกินกว่าศักยภาพและกำลังการผลิต จึงโตอย่างยังยืน
- ธุรกิจค่อยๆ ขยายจากครอบครัวไปสู่ธุรกิจชุมชน และชุมชนใกล้เคียง กว่า ๓๐๐ ชีวิต
- หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นทั้งหลักในการดำเนินชีวิตและหลักในการฝึกจิตใจด้วย
- มีการส่งออกผลิตภัณฑ์กระดาษไปหลายประเทศทั่วโลก
- การบริหารธุรกิจนั้น แท้จริงแล้วก็คือการบริหารชีวิต ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ผ่านตำรายากๆ
เห็นอะไรจากวีดีทัศน์บ้างคะ?
- เห็นชาวไทยมีอาชีพทำกระดาษสาที่ได้สืบทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ ทำรายได้ให้ครอบครัวของป้าฟองคำและสามี รวมทั้งคนในชุมชน
- เห็นการถ่ายทอดภูมิมปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น เห็นการอนุรักษและสืบต่อภูมิปัญญาอาชีพ
- เห็นการทำธุรกิจระดับชุมชนและชุมชนใกล้เคียง ร่วมมือกัน (ไม่ใช่การแข่งขันแก่งแย่งกัน)
- เห็นวิถีไทย ที่ให้และแบ่งปัน เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่กัน
- เห็นวิธีคิดของป้าฟองคำ เกี่ยวกับแนวทางการนำเอาหลักปรัชญาฯ ไปใช้
- ฯลฯ
มีความพอประมาณอยู่ตรงไหนคะ?
- มียอดสั่งจองจากต่างประเทศเข้ามามาก แต่ป้าคำฟอง ก็รับงานตามศักยภาพในการผลิตเท่านั้น เรียกได้ว่า พอประมาณกับศักยภาพการผลิตของตนเอง
มีเหตุผลอยู่ตรงไหนบ้างคะ?
- ป้าฟองคำยึดหลัก(คุณธรรม)ว่า ทำธุรกิจกับต่างชาตินั้น สิ่งคัญคือคุณภาพของสินค้า และการส่งงานที่ตรงเวลา นี่คือเหตุผลว่า ทำไมป้าฟองคำไม่รับงานเกินตัว
- การประเมินศักยภาพตนเอง ไม่รับงานเกินตัว แต่ตัดสินใจเลือกที่จะค่อยๆ พัฒนา ขยายผล แบ่งปันไปยังคนในชุมชน โดยใช้ความรักความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง ทำให้เกิดความมั่นคงของธุรกิจ ... การไม่ตาโต การคิดเพื่อผู้อื่นในชุมชน ความรักสามัคคีแบบพี่น้อง เหล่านี้ล้วนเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวป้าฟองคำ
- เบื้องหลังของทั้งหมดคือ ความขยัน อดทน พึ่งตนเอง เรียนรู้ เผื่อแผ่ แบ่งปัน สามัคคี ฯลฯ เหล่านี้ คือ ความ"พอเพียง" ในใจของฟ้าฟองคำนั่นเองครับ ...
ผมมองว่า สิ่งสำคัญของการใช้ "คำถาม" และ "คำถามตามติด" คือความเข้าใจและประสบการณ์ในการสะท้อนและถอดบทเรียนบนหลัก ปศพพ. ส่วนเรื่องเล่าที่นำมายกตัวอย่าง จะเป็นหัวใจของการยกระดับความเข้าใจให้นิสิตได้ โดยเฉพาะประสบการณ์ตรงของตนเอง ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น