- ได้พบและรู้จักเครือข่ายการศึกษาทั่วไป จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และประสบการณ์จากการขับเคลื่อนของแต่ละสถาบัน
- มข. ก้าวไปไกล ด้วยการบูรณาการโครงการสร้างผู้ประกอบการกับโครงการพัฒนาบัณฑิตที่พึงประสงค์ในศตวรรษที่ ๒๑ โดยเฉพาะการร่วมมือกับ MIT ยกเอาสิ่งดี ๆ มาสร้างกิจกรรมสร้าง StartUp
- ม.นครพนม มีทีมเข้มแข็งมาก กำลังขับเคลื่อนอ่างจริงจัง ... ท่านบอกว่าสิ่งสำคัญคือการบูรณาการระหว่างการปลูกฝัง Hard Skils และ Soft Skills
- มรภ. ร้อยเอ็ด มีรายวิชาศาสตร์พระราชา และกำลังบูรณาการศาสตร์พระราชากับการพัฒนาชุมชน
- มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังปลูกฝัง "ความพอเพียง" ผ่าน กิจกรรม "หลุมพอเพียง" ภายในมหาวิทยาลัยใจกลางเมืองที่มีพื้นที่จำกัด... น่าสนใจมากครับ
- วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ปลูกฝังโดยเน้นการทำตนเป็นแบบอย่าง และบ่มเพาะด้วยความรัก ความเมตตา ... ท่านเป็นอาจารย์พยาบาลครับ ... ผมรู้จักอาจารย์สอนพยาบาลหลายท่าน ที่มีบุคคลแห่งความใจดี มีเมตตาแบบนี้ ผมสงสัยว่าต้องมีอะไรสักอย่างในหลักสูตรของการสร้างพยาบาล ที่ปลูกฝังให้มีจิตใจเช่นนั้น
- วิทยาลัยพิชญบัณฑิต ... ท่านแข็งขันถึงขั้นพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในการขับเคลื่อนเครือข่ายพัฒนาบัณฑิตแบบองค์รวมหรือการศึกษาทั่วไป ... รศ.ดร.ฉลาด จันทรสมบัติ ครูอาจารย์ของคนพอเพียงนั้นเองครับ ที่เป็นผู้นำขับเคลื่อน
- วิทยาลัยชุมชนหนองบัวลำภู น่าจะเป็นตัวอย่างของการบูรณาการการศึกษากับการพัฒนาชุมชนได้ดีมาก ... ผมคิดว่า อาจารย์ที่กำลังทำงานกับชุมชน ต้องเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายกับวิทยาลัยชุมชนนี้
- วิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร เป็นเอีกแห่งที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ท่านที่เป็นตัวแทนอยู่ในกลุ่มย่อยที่ผมอยู่พอดี จึงมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนกับท่าน ... (แต่ก็เสียดายที่เวลามีจำกัด อย่างไรก็ดี เราได้แลกเปลี่ยนเบอร์กันไว้แล้ว)
- ได้เห็นต้นแบบของนักเรียนรู้ รศ.ดร.สุภาพ ณ นคร ผมสังเกตว่า ท่านอยู่ร่วมวงตลอด ๒ วัน ทั้งทำหน้าที่ช่วยเป็นฟากลุ่มย่อย ทั้งคอยสรุปและกำกับให้ทิศทางและเชียร์เด็กรุ่นหลัง ให้มีพลังก้าวต่อไป ... ท่านเป็นแบบอย่างของการทำอะไรด้วยใจ ท่านเป็นต้นแบบแห่งการคิดแบบองค์รวมอย่างแท้จริง สำนักศึกษาทั่วไปมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ท่านช่วยหลายอย่างจนเดินทางมาถึงทุกวันนี้
- ผมฟังว่า ต่อไปอาจจะไม่มีเวทีดี ๆ แบบนี้ เพราะทาง สกอ. จะส่งตรงงบประมาณไปยังมหาวิทยาลัย (ซึ่งคงไปไม่ถึงสำนักศึกษาทั่วไป) จึงลุกขึ้นเสนอตอนท้ายการประชุม กับเจ้าหน้าที่ของ สกอ. ที่ท่านมาร่วมวงด้วย โดยฝากท่านว่า อยากให้มีเวทีกลางแบบนี้อีก เปิดโอกาสให้คนศึกษาทั่วไป นำเอาประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนกัน แบบไม่ต้องแข่งขัน หรือวิ่งตามความโลภแบบฝรั่งที่ทุกมหาวิทยาลัยกำลังดิ้นรน
สุดท้ายนี้ขอจบด้วยกลอนของ ท่านอาจารย์สุภาพ ณ นคร จากกลุ่มย่อยที่ ๓ ที่ขับขานในวงโดย อ.มดเอ็กซ์ จาก ม.นครพนม ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมและเชียร์ดังสนั่นห้องไปเลยครับ
(ขอแก้ที่ผมพิมพ์ผิดนิดเดียวครับ เปลี่ยนจาก ชีวิตเอย เป็น เลี้ยงชีพเอย ในบรรทัดสุดท้าย)
ขอจบบันทึกการเข้าร่วมประชุมตรงนี้ครับ โอกาสหน้าหวังว่าจะเจอทุกท่านอีกครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น