บันทึกที่ (๑)
บันทึกที่ (๒)
เชิญครับ สำหรับคนที่ชอบดูคลิป
ดูสไลด์ของท่านประกอบได้ด้านล่างครับ
- มีคำ ๓ คำที่ควรรู้ มีความหมายต่างกัน ได้แก่
- Tai หรือ ไท หมายถึง เชื้อชาติไท ประกอบด้วยคนจำนวนมาก ที่พูดภาษาไท
- Thai หรือ ไทย หมายถึง คนไทกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า สยาม จนกระทั่งมาเปลี่ยนเรียกตนเองเป็น ประเทศไทย ในปี 1939
- Siam หรือ สยาม ก็คือคนไทกลุ่มหนึ่ง ดังที่กล่าวไป
- คนไท (Tai) นั้นเป็นกลุ่มคนขนาดใหญ่ หลายเชื้อชาติ หลายเผ่าพันธ์ แต่ใช้ภาษาเดียวกัน เรียกว่า ภาษาไท อาศัยอยู่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในดินแดนสุวรรณภูมิ เช่น
- สยาม อยู่แถวลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
- ลาว อยู่แถวแม่น้ำโขง ฝั่งซ้ายเรียกลาวล้านนา ฝั่งขวาเรียกลาวล้านช้าง
- ภูไท อยู่เหนือลาวขึ้นไป สาเหตุที่คนไทยมีเชื้อชาติภูไทยในปัจจุบันเยอะเกิดจากการกวาดต้อนผู้คนหลังสงคราม ภาษาภูไท จะคล้าย ๆ ภาษาไทย
- จ้วง อยู่เหนือภูไทขึ้นไป อยู่ทางตอนใต้ของจีน ปัจจุบันอยู่ในมณฑลกวางสี
- ลื้อ หรือ เขิน อยู่เหนือเชียงใหม่ขึ้นไป ในอาณาจักรสิบสองปันนา เชียงรุ้ง
- ชาน หรือเราเรียกว่า ไทยใหญ่
- อาหม ตอนนี้กลุ่มนี้ไม่เป็นไทยแล้ว แต่งชุดแขก พูดภาษาแขกหมดแล้ว เหลือแต่ร่องรอยตัวหนังสือเท่านั้น
- คัมเต อยู่ติดกับชายแดนทิเบต ... มีอาจารย์ภาคภาษาไทยเคยไปที่นั่นแล้วกลับมาเล่าให้ฟังว่า เขาใช้ภาษาไทย คุยกันรู้เรื่อง มีกษัตริย์ปกครอง อยู่เรือนไม้ทรงสูง เหมือนบ้านทางอีสานในปัจจุบัน เขาถามว่า "มึงมาแต่ไส"
- สมัยจอมพลปอ พิบูลสงคราม ได้เปลี่ยนชื่อจากสยามมาเป็น ประเทศไท เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของชาวไท เป็นรัฐชาติ มีบางคนบอกว่าควรจะมี ยอยักษ์ (ย.) จะได้สวยๆ เหมือนการเขียนคิ้วทาหน้า จึงเปลี่ยนมาเป็นประเทศไทย จนปัจจุบัน
- คนไทยเป็นอย่างไร ? ที่เด่นที่สุดคือ มีจิตใจโอบอ้อมอารี แบ่งปันกัน ชอบความสนุกสนาน เคารพผู้ใหญ่ และ ๘่.๐๐ น. ยืนตรงเคารพธงชาติ ... สิ่งดี ๆ เหล่านี้ เริ่อมเสื่อมไปในปัจจุบัน
- วัฒนธรรมขี้อาย (Shame Culture) ผู้บรรยายยกตัวอย่างกรณีด้วยการขายเสียง ไม่ใช่มองหน้าแล้วอาย แต่อายเมื่อรู้ว่าตนเองทำไม่ดี (ทำความชั่ว) แต่จะทำต่อ ๆ ไป ตราบเท่าที่ไม่มีคนรู้ เมื่อมีคนรู้ จึงเกิดความอายขึ้น ... คือ ตอนทำไม่อาย ตอนโกงไม่อาย แต่จะอายเมื่อถูกจับได้
- Shame Culture ไม่ใช่เฉพาะเป็นนิสัยของคนไทย แต่เป็นนิสัยของคนในเอเชียอาคเนย์... จึงไม่ต้องแปลกใจที่ ประเทศเหล่านี้ ขึ้นชื่อเรื่องอันดับการคอรัปชั่นสูง
- การสาดน้ำ การรดน้ำดำหัว การรดน้ำดำหัว เป็นประเพณีของชาวมอญ ที่ทำต่อกันมาเป็นพันปี
- ต่อมาเมื่อพม่าได้มอญเป็นเมืองขึ้น ได้นำเอาประเพณีนี้ไปเล่นในพม่าด้วย
- เมื่อบุเลงนอง ตีกรุงศรีอยูธยาได้ตอนปี ๒๑๑๒ จึงนำเอาประเพณีเหล่านี้เข้ามาในกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่นั้นมา จึงสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง
- ไทยรับวัฒนธรรมส่วนใหญ่ของไทย รับมาจากอินเดีย ได้แก่ การไหว้ นุ่งโจงกระเบน ใช้มือเปิปข้าว เป็นต้น
- อาณาจักรที่เจริญก่อนไทยคือเขมร อินเดียส่งต่อให้เขมร ดังนั้นไทยจึงได้รับวัฒนธรรมเหล่านี้จากเขมรอีกที
- ในปี พ.ศ. ๑๘๙๕ กรุงศรีอยุธยาไปตีเขมรแตก จึงกวาดต้อนคนและปราชญ์มาอยู่ที่อยุธยา จึงรับเอาวัฒนธรรมมาจากเขมร เช่น ภาษา ราชาศัพท์ ลายกนกไทย ที่กลับซ้ายเป็นขวา กลับขวาเป็นซ้าย ฯลฯ
- ขนมต่างๆ ตามภาพ อะไรก็ตามที่มีผสมไข่ กะทิ มาจากโปรตุเกส เพราะแต่ก่อนเราไม่มี .... เรารับมาแล้วนำมาเพิ่มเติมปรับปรุงต่อ จนอร่อยกว่าต้นฉบับที่ใด ๆ
- รัชกาลที่ ๔ ได้เริ่มรับเอาวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา ได้สร้างถนนเจริญกรุง เป็นถนนสายแรกของประเทศไทย
- อังกฤษส่งเซอร์จอห์น เบาว์ริง เข้ามาทำสนธิสัญญา ซึ่งไทยเสียเปรียบอย่างมาก พระองค์ท่านทรงคิดว่า แม้จะเสียเปรียบแต่เป็นการซื้อเวลาในการปรับตัว คือไม่หนีฝรั่งเหมือนราชสำนักอื่นๆ ซึ่งต่อมาตกเป็นเมืองขึ้นทั้งหมด
- สนธิสัญญาฉบับนี้ ทำให้เราขายข้าว เริ่มปลูกข้าวเยอะ เริ่มมีโรงสี .... เริ่มระบบทุนนิยม
- มีโรงสีโรงแรกในสมัย ร.๔ ที่ขัดข้าวเป็นข้าวขาว ส่วนใหญ่คนไทยกินข้าวกล้องทั้งหมด
- คนไทยไม่ทำโรงสี คนที่ทำโรงสีคือคนจีน
- สมัย ร.๓ มีคนจีนคนหนึ่งชื่อยิ้ม พาภรรยายอพยพ ลงเรือมาทำงานในโรงสีในไทย โดยขอยืมเงินเป็นค่าจ้างเรือเดินทางมาไทย
- เริ่มมาเป็นกรรมกรในโรงสีอยู่หลายปี จนสามารถจ่ายหนี้ค่าเรือหมด จึงเดินทางไปเชียงใหม่ ไปพบพระเจ้าเชียงใหม่ ไปแนะนำวิธีการเก็บภาษี จนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าภาษีฝิ่น เมื่อมีเงินมีทองจึงเดินทางมากรุงเทพ
- ร. ๔ แต่งตั้งให้เป็นพระภาษีสมบัติบริบูณ์ กลายเป็น "ท่านยิ้ม" ร่ำรวยมาก ขุดคลองภาษีเจริญ เชื่อมระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำท่าจีน ตรงปากครอง ท่านยิ้มสร้างโรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่นั่น เป็นเจ้าของบริษัทเดินเรือระหว่างกรุงเทพสิงคโปร์ เป็นเจ้าของธุรกิจทุกอย่างที่มีในเมืองไทยขณะนั้น และเป็นเศรษฐีใหญ่ที่สุดของเมืองไทย
- ยิ้มมีลูกชายคนหนึ่ง ชื่อ ขุนสาทรราชาวุฒิ (อาจฟังผิดนะครับ) เป็นที่มาของถนนสาทร ในปัจจุบัน
- ยิ้มมีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ ห่วง ซึ่ง ร.๕ จึงมาขอไปเป็นเจ้าจอม ได้โอรสองค์โต คือ พระองค์เจ้ากิตติยากรวรลักษณ์
- พระองค์เจ้ากิตติยากรวรลักษณ์ มีลูกชายคนโตชื่อ พระจันทรบุรีสุรนาถ ซึ่งก็คือ เสด็จพ่อของพระบรมราชินีนาถองค์ปัจจุบันนั่นเอง
- ร. ๔ ท่านคำนวณและทำนายวันเวลาที่จะเกิดสุริยุปราคา ที่หว้ากอ ประจวบคีรีขันธ์ และเชิญเซอร์แอริอ็อด เจ้าเมืองอังกฤษที่สิงคโปร์ เชิญฑูตจาประเทศต่างๆ ไปร่วมเป็นสักขีพยาน
- นักประวัติศาสตร์มองว่า ร.๔ ทรงอยากจะบอกว่า คนไทยไม่ใช่คนโง่ ถ้ามีโอกาสอย่างพระองค์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่นเดียวกับที่ฝรั่งทำ
- ร.๔ ทรงติดไข้มาลาเรีย ท่านทรงฝากให้ ร.๕ ทำต่อ เริ่มรับวัฒธรรมฝรั่งมามากขึ้น
- หัวลำโพง ลอกแบบ King Cross Station ที่อังกฤษมาทั้งหมด
- ถนนราชดำเนิน ได้แบบมาจาก ถนนชองค์ซาทิเซ ฝรั่งเศส
- พระบรมรูปทรงม้า ได้ดัดแปรงแบบมาจากอังกฤษ อิตาลี
- ปฏิวัติไม่สำเร็จ จึงกลายเป็นกบฏ
- ปฏิบัติสำเร็จในปี พ.ศ. ๒๔๗๕
- สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ยกเลิกวัฒนธรรมไทย ให้ทำเป็นสากลหมด
- เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการใช้อำนาจของจอมพล ป.
- ปัจจุบัน คนไทยอยากเป็นเกาหลี อยากเป็นญี่ปุ่น
- คนไทยปรับตัวเก่ง คนไทยเป็นนักผสมผสาน
- ชาวฝรั่งเศสบอกว่า "คนไทยเปรียบเหมือนสีของน้ำในแม่น้ำ เมื่อไหลผ่านบริเวณท้องฟ้าที่มีสีฟ้า น้ำจะมีสีฟ้า และถ้าไหลผ่านท้องฟ้ามีเมฆครึ้ม ท้องฟ้าจะมีสีหม่นครึ้มไปด้วย"
- หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยเป็นผู้ชนะสงครามในสายตาอเมริกัน แต่เป็นผู้แพ้สงครามในสายตาของฝรั่งเศสและอังกฤษ
- จุดประสงค์ของไพร่ คือเพื่อควบคุมและเกณฑ์แรงงานคน เนื่องจากต้องทำสงครามอยู่เสมอ จึงต้องหาทางคุมคนและเรียกคนให้เร็ว
- การพึ่งนาย กลายมาเป็น "เส้นสาย" เล่นพรรคเล่นพวก
- จอมพล ป. ทำตรงกันข้ามกับกษัตริย์ทำ เมื่อ จอมพลสฤษดิ์ปฏิวัติ ก็ทำตรงข้ามกับจอมพล ป. คือทำการรื้อฟื้นระบบกษัตริย์
- ในหลวงทรงรื้อฟื้นความเป็นไทย โดยเฉพาะ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
- ข้าวผัดอเมริกัน กล้วยแขก ขนมจีน ซุกี้ยากี้ รอดช่องสิงคโปร์ เหล่านี้ ไม่มีในต่างประเทศ
- อาหารที่อร่อยที่สุดในโลกคือ อาหารไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น