คำว่า "อารยธรรม" กับคำว่า "วัฒนธรรม"
- จะบรรยายภาพรวมของรายวิชามนุษย์กับอารยธรรมและศาสนา
- มีคำที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับ่รายวิชานี้คือ อยู่ ๒ คำ คำแรกคือ Culture อีกคำคือคำว่า Civilization คำว่า Culture ตรงกับภาษาไทยว่า "วัฒนธรรม" ส่วนคำว่า Civilization ตรงกับคำภาษาไทยว่า "อารยธรรม"
- วัฒนธรรม หมายถึง สิ่งที่คนในสังคมประพฤติปฏิบัติกันและสืบทอดกันเป็นเวลานาน จะดีไม่ดีไม่รู้ แต่สังคมเขาคิดว่ามันดี เขาจึงทำต่อกันมา
- เช่น ในสังคมไทย มีสิ่งที่คนไทยทำกันมาตลอด เช่น ไหว้ ยิ้ม ดูแลคนแก่ ฯลฯ
- แล้วโสเภณีล่ะ? เป็นวัฒนธรรมไทยไหม? แต่เราไม่โอเคนะถ้าจะมาบอกว่า โสเภณีคือวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ในสมัยรัชกาลที่ ๕ โสเภณี ต้องถูกตีตราที่ไหปลาร้าด้านซ้าย และถูกเก็บภาษี ดังนั้น โสเภณีสมัยนั้นจะนุ่งห่มเสื้อผ้าอย่างมิดชิด
- แล้วการพนันล่ะ? เป็นวัฒนธรรไทยไหม? เราบอกว่ามันไม่ดี เราจึงไม่ยอมรับว่าเป็นวัฒนธรรม
- สรุปแล้ว หากใครเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก็จะบอกว่า สิ่งที่ไม่ดีเช่น โสเภณีหรือการพนัน เหล่านี้ ไม่ใช่วัฒนธรรม .... แต่สำหรับผู้สอน ท่านเรียกทั้งหมดที่สังคมยึดถือปฏิบัติ ทำสืบทอดกันมาว่า "วัฒนธรรม"
- "วัฒนธรรม" จะเป็นสิ่งที่ทำกันเฉพาะในกลุ่มชนเดียว เชื้อชาติเดียว ไม่สากล คนไทยทำแต่ฝรั่งไม่ทำด้วย เรียกว่า "วัฒนธรรมไทย" แต่ถ้าเป็นสิ่งสากล คนทั่วโลกทำกัน เช่น ประชาธิปไตย ฯลฯ จะเรียกว่า "อารยธรรม"
- "กินข้าว" เป็นวัฒนธรรมไทยไหม? ... เป็น.... แต่ถ้าเราไปกินขนมปังล่ะ? เป็นวัฒนธรรมไทยไหม..... ไม่แน่....
- ดังนั้น สิ่งที่เราจะเรียนกันในวิชานี้คือ สิ่งที่คนทั้งหลายทั่วโลกทราบกัน ทำกัน สืบทอดต่อกัน ยาวนาน
- แล้วคนไทยมี "อารยธรรม" ไหม? ...คนไทยรุ่นเก่า ๆ ก็มีวัฒนธรรมเหมือนกันนะ
- ตอนท่านเรียนที่ ม.ธรรมศาสตร์ ปี ๒๕๑๔ ตอนจบเป็นอันดับ ๑ ของรุ่น เขาจะเอาผมเป็นอาจารย์ที่นั่น แต่ไม่ชอบอยู่กรุงเทพฯ อยากอยู่ต่างจังหวัด จึงมาที่นี่ไง ... ความจริงอยู่ที่ไหนก็ได้ หลายมหาวิทยาลัยก็จะเชิญเราไปสอน ถ้าไปสอนอังกฤษได้เดือนละแสน อเมริกาได้เดือนละแสนห้า ... ไปญี่ปุ่นได้สองแสนเจ็ด ...ไม่สำคัญ สำคัญที่ได้เดินทางไปรอบโลก เคยไปญี่ปุ่น ๕ ครั้งแล้ว ไปอังกฤษ ๘ ครั้ง ไปอเมริการ ๕ ครั้ง .... ดังนั้น ผมจึงไม่ง้อพวกคุณไง ไม่อยากเรียนก็ช่างไง ... ไม่ง้อแล้ว....ฮา
- ตอนเรียนที่ธรรมศาสตร์ มีรายวิชา "อารยธรรมไทย" ตอนนั้นมันไม่น่าใช่ ... แต่ตอนนี้ มีบางอย่างเริ่มเป็นอารยธรรมแล้วนะ เช่น อาหารไทยไง ....
- ขนมไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ฯลฯ อะไรเหล่านี้ทั้งหมด มาจากโปรตุเกส เข้ามาในสมัยอยุธยา ที่มาเก้าก็มีขาย แต่ไม่อร่อยเท่าของเรา... สังขยา บ้าบิ่น ก็เจอเมือนกัน
- พริก มะละกอ มาจากอเมริการใต้ พวกโปรตุเกสไปเอามาปลูกที่ฟิลิปปินส์ ต่อมาก็มาที่เรา แต่ก่อนเราไม่มีพริก
- ดังนั้น สัมตำ หรือ ตำบักหุ่ง ของเราสมัยก่อน เราไม่ได้ตำใส่มะละกอ ตำใส่พวกอะไรที่เปรี้ยวๆ
- ภาษาที่เราพูด ภาษาไทย รับมาจากเขมร เลข ๑ ๒ ๓ .... อยู่ในจารึกของเขมรทั้งหมด รวมทั้ง ราชาศัพท์ต่าง ๆ ก็คือภาษาเขมรธรรมดา เราเอาภาษาเขมรมาใช้ ...
- เครื่องแกงต่างๆ เอามาจากอินเดีย
- การไหว้จริง ๆ แล้วก็มาจากอินเดีย
- ระบำ รำฟ้อน ต่าง ๆ ก็เอามาจากอินเดีย
- จุดเด่นของไทย อยู่ที่เราเอาสิ่งต่างๆ หลากหลาย เอามาผสมผสาน สร้างขึ้นมาใหม่ ... คนไทยเก่งเรื่องนี้จริง ๆ
คำว่า "คน" กับ "มนุษย์"
- "คน" หมายถึง สัตว์จำพวกหนึ่งที่แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉาน
- "มนุษย์" ก็คือ "คน" ที่มีสติปัญญา คือ คนฉลาด ผู้รู้ มีธรรมะในจิตใจ รู้จักทาน รู้จักศีล
- ดังนั้น นิสิตที่เดินออกมาอาจเป็นได้ทั้ง "คน" และ "มนุษย์" จะเป็นมนุษย์ตอนที่มีจิตใจสูงกว่า หรือเรียกว่า "คนอันประเสริฐ"
- สังเกตตอนที่บวช พระท่านจะถามว่า "มนุษย์เสสะ" (มนุษย์โสสิ) ... เป็นมนุษย์ไหม
- นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า "คน" พัฒนามาจากลิง
- ๑๐,๐๐๐ ปีที่ผ่านมา คนกินของป่า ล่าสัตว์
- ๖,๐๐๐ ปีที่ผ่านมา คนอยู่เป็นกลุ่ม และเริ่มทำเกษตรกรรม ปศุสัตว์ รวมทั้งทำสงครามกันด้วย เช่น แถบเมโสโปเตเมีย แถบลุ่มแม่น้ำไนด์และอิยิปต์ ลุ่มแม่น้ำสินธุ ฯลฯ
- ถามว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่ดีหรือเลว? .... ในโลกตะวันตกและตะวัะนออก มองมุมนี้ต่างกัน
- ในโลกตะวันตก มองว่ามนุษย์เป็นสัตว์ที่ดี ในศาสนาคริสต์ คัมภีร์สอนว่า พระผู้เป็นเจ้าจ้างมนุษย์ขึ้นมาคู่หนึ่ง ชื่อ อดัมกับอีฟ แล้วให้มาอยู่ในสรวงสวรรค์ แล้วห้ามไม่ให้กินแอ็บเปิ้ล ช่วงแรกก็เชื่อ แต่พอมาตอนหลัง ซาตาลแปลงมาเป็นงูตัวใหญ่มาหลอกให้กินแอ๊ปเปิ้ล ทำผิดสัญญา ลูกแอ๊ปเปิ้ลติดคอกลายเป็ยลูกกระเดือกผู้ชายไป (...ฮา) ... สรุปคือเบื้องต้นดี แต่ที่เลวเพราะซาตานมาพาเลวทีหลัง ... ดังนั้น ทางตะวันตกจะให้โอกาสคนได้กลับตัวกลับใจ เอาไปขังคุก ขังตาราง บำเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น ตรงข้ามกับทางโลกตะวันออก
- ในโลกตะวันออก บอกว่า มนุษย์นั้นเป็นสัตว์ที่เลว ในพระไตรปิฎกบอกว่า โลกที่ร้อน ทำให้น้ำแห้งลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นแผ่นดิน กลิ่นดินลอยขึ้นไปบนสรวงสวรรค์ เทวดาได้หอมกลิ่นดิน เกิดโลภะโทสะโมหะ ลงมากินง้วนดิน จนกลายกายเป็นหยาบกลับขึ้นไปไม่ได้
- เมื่อกลับไปไม่ได้ ก็ต้องใช้ชีวิตบนโลก จากเดิมที่กินอิ่มนอนหลับวันต่อวัน แต่ด้วยความโลภมากขึ้น จึงเริ่มสะสมอาหาร ไปหาทีหนึ่งกินได้ ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน .... ถ้าเป็นฝรั่งจะเรียกว่า "ฉลาด" แต่ในพระไตรปิฎกจะอธิบายว่าเป็นเพราะ ความโลภ
- อีกพวกหนึ่ง แทนที่จะไปหาอาหาร แต่ดันใช้วิธีการขโมยของคนอื่นแทน จึงเกิดการลักขโมย และทะเลาะกัน
- สรุปคือ ทางตะวันออก จะมองว่า คนนั้นเลวอยู่แล้ว (ต้องพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์) จึงกำหนดบทลงโทษอย่างหนัก ประหารให้ตายตกไปตามกัน ถ้าคนแทงเขาตายก็ต้องถูกฆ่าตายเหมือนกัน
คนทางตะวันออก จึงไม่ได้ให้โอกาสในการกลับตัวมากนัก
อารยธรรมโลก
- อารยธรรมโลกแห่งแรกคือ จีน (แต่คนจีนในยุคนี้เป็นคนละคนกับคนจีนในยุคอารยธรรม) อยู่ระหว่างแม่น้ำสองสายของจีน คือ แม่น้ำแยงซีเกียง และแม่น้ำฮวงโห
- ฮวง แปลว่า เหลือง โห แปลว่าน้ำ จึงเรียกว่า "แม่น้ำเหลือง"
- เจ้าพระยาโห ได้ไหม? ..ได้ โขงโหได้ไหม? ..ได้ ปิงโหได้ไหม?...ได้ วังโหได้ไหม?... ยกเว้น ชีโห...ไม่ได้...ฮา
- แหล่งอารยธรรมแหล่งที่สองคือ อารยธรรมอินเดีย ลุ่มแม่น้ำสินธุ
- แหล่งอารยธรรมที่สาม คือ อารยธรรมไทกริส ยูเคติส เมโสโปเตเมีย แถมลุ่มแม่น้ำไนด์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของของอารยธรรมสมัยนี้ด้วย เริ่มตั้งแต่ อียิปต์ -> กรีก -> โรมัน -> ยุโรป ต่อมาจึงเป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน
- ขอให้นิสิตดูรายละเอียดเองนะครับ สนุกมาก....
อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
- อัศจรรย์มาก เมื่อ ๔ - ๕ พันปีมาแล้วทำได้อย่างไร?
- ภาพทั้งหมดที่ผู้บรรยายนำมาแสดง ท่านถ่ายด้วยตนเอง
- ภาพเหล่านี้ถ่ายที่อังกฤษ อังกฤษขนมาไว้ประเทศตนเองหมด ถ้าไปอิรัก อิหร่าน อาจจะเจอภาพร่องรอยบ้าง แต่ถ้าสวยๆ แบบนี้ ไม่มีแล้ว
- ดูสิ ตึกตั้ง ๔- ๕ ชั้น สร้างได้อย่างไร ?
- ภาพข้างบนนี้ถ่ายที่พิพิธภัณฑ์ที่อังกฤษ
- สิงโตของเมโสโปเตเมียมีหลายตัวมาก ตัวด้านบนนี้สวยมาก อยู่ในพิพิธภัณฑ์ชื่อ กรีเล่ (ผมอาจฟังผิด)
อารยธรรมกรีซ
- สไลด์ด้านบนนี้ ผู้บรรยายเกี่ยวกับกีฬาวิ่งมาราธอน ..... สนุกมากครับ ....
อารยธรรมโรมัน-อิตาลี
- ในสี่รูปนี้ ... ตอบได้ไหมว่า รูปไหนไม่ใช่อารยธรรมโรมัน ?
อารยธรรมอินเดีย
อารยธรรมจีน
จบฮ้วนๆ ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น