วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รายวิชาศึกษาทั่วไป : มนุษย์กับการเรียนรู้ _๐๓ "เรียนรู้ตลอดชีวิต"



 ผมรับหน้าที่เขียน บทที่ ๘ บทสุดท้ายของเอกสารประกอบการสอนรายวิชา "มนุษย์กับการเรียนรู้" ที่จะใช้ในภาคการศึกษานี้ จากการพบปะสนทนาตั้งแต่ตอนไปเชียงคาน (บันทึกนี้ และ บันทึกนี้) ผมเพิ่งจะทำ "การบ้าน" นี้ โดยมีชื่อบทว่า "เรียนรู้ตลอดชีวิต" 

 “การเรียนรู้ตลอดชีวิตในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง Life-Long Learning ที่มักใช้กันทั่วไปในวงการศึกษา ซึ่งนักการศึกษามักหมายถึง การขยายโอกาสและการจัดการศึกษาให้ทั่วถึงและครอบคลุมต่อความต้องการและการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม หรือการเปลี่ยนแปลงของโลก แต่ผู้เขียนมุ่งหมายถึง การเรียนรู้ภายในอย่างใคร่ครวญตลอดชีวิตที่ไม่เลือกกาล เวลา หรือสถานที่ใดๆ ตราบใดที่ยังมี จิตใจกระบวนการเรียนรู้ก็ยังคงเป็นไปไม่รู้จบ ดังนั้น "การเรียนรู้ตลอดชีวิต" ที่จะกล่าวต่อไปนี้ ผมจึง "จงใจ" ตีความถึง การเรียนรู้อย่างมีคุณภาพด้วยใจที่ใคร่ครวญ หรือเรียกว่า "การเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง" (Transformative Learning)

เราทุกคน เรียนรู้ตลอดชีวิตอยู่แล้วไม่มากก็น้อยแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพของการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล การเรียนรู้ที่มีคุณภาพจะส่งผลให้พัฒนาการด้านจิตวิญญาณยกระดับสูงขึ้น ผู้เขียนได้เรียนรู้ถึงองค์ประกอบและปัจจัยที่ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ จาก อาจารย์ชัยวัฒน์ ถิระพันธ์ ในเวทีขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศภาคประชาสังคม จึงได้นำมาประยุกต์ใช้กับทฤษฎีการเรียนรู้ที่ได้ศึกษาและเรียนรู้ด้วยตนเองมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ขอนำเสนอให้พิจารณา ดังภาพด้านล่าง


องค์ประกอบที่สำคัญต่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง หรือเรียกว่า การเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงเมื่อเราประสบการณ์ใหม่จากสิ่งแวดล้อมใหม่ ความเชื่อหรือศรัทธาในเรื่องต่างๆ ความเชื่อที่แตกต่างกันย่อมทำให้แต่ละบุคคลมีกระบวนทัศน์หรือวิธีคิดแตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อท่าทีหรือเจตคติต่อเรื่องต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแตกต่างกันไป องค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความรู้และประสบการณ์เดิมที่สั่งสมในแต่ละบุคคล ความเชื่อและประสบการณ์เดิมจะส่งผลต่อการฟัง การคิด และการลงมือปฏิบัติ ทำให้ กระบวนการเรียนรู้ของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไปด้วย ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดว่า การเรียนรู้ที่แท้จริงจะเกิดขึ้นหรือไม่ คือ การมีสติรู้ตัว มีปัญญาระลึกรู้ ซึ่งตามพุทธวิธีจะต้องฝึกสมาธิให้ใจตั้งมั่นและเจริญสติให้จิตจดจำสภาวะต่างๆ ให้ได้ก่อน ส่วนประสิทธิภาพของการเรียนรู้ของแต่ละคนนั้น จะแตกต่างกันไปตามทักษะหรือความสามารถในการฟัง การคิด การปฏิบัติ ซึ่งโดยทั่วไปจะแสดงให้เห็นจากความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเอง   และประสิทธิผลหรือความสำเร็จของการเรียนรู้จะเกิดขึ้นมากน้อยอย่างไร จะขึ้นอยู่กับปัจจัยแห่งความสำเร็จ ๔ ประการ ได้แก่ แรงบันดาลใจในการเรียนรู้ (ฉันทะ) ความเพียรพยายาม (วิริยะ) การจดจ่อต่อเนื่อง (จิตตะ) และการสะท้อนป้อนกลับที่ถูกต้องเหมาะสม (วัมังสา)

เราตอนนี้ อาจเหมือนปลา "อยู่ในน้ำ แต่ไม่เคยเห็นน้ำ"  "ทางสายเอก" เท่านั้นจะพาเราไปเท่าทันและ "สิ้นสุดการเรียนรู้"